Misys ช่วยปรับโฉมระบบธุรกรรมธนาคารให้กับธนาคารโยมา

ธนาคารโยมาแห่งเมียนมาร์ได้เลือกผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการเงินอย่าง Misys ให้เข้ามาเป็นผู้ปรับปรุงระบบธุรกรรมหลักๆ ของธนาคาร
จากแถลงการณ์ขององค์กร IMF กล่าวว่า มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของเมียนมาร์จะเติบโตขึ้นร้อยละ 8.5 ในปีหน้า ส่วนแถลงการณ์ร่วมของธนาคารโยมาและ Misys ระบุว่า เพื่อรับมือกับการเติบโตนี้ เมียนมาร์จึงจำเป็นต้องปรับปรุงระบบธนาคารให้มีความทันสมัยขึ้น
“ประเทศเมียนมาร์กำลังเติบโต และกำลังจะมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดขีดสุด ดังนั้น ระบบการเงินที่มีความทันสมัย ใหม่ และยืดหยุ่นนั้นจึงมีความสำคัญมาก เพื่อที่จะสนับสนุนสภาวะเศรษฐกิจและประชากรในประเทศ” นายฮาล โบเชอร์ ซีอีโอธนาคารโยมากล่าว “เรากำลังปรับโฉมธนาคารให้เพิ่มช่องทาง รวมถึงผลิตภัณฑ์และมิติใหม่ๆ ให้กับบริการลูกค้า ซึ่งจะช่วยตอกย้ำให้เราเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในเมียนมาร์ครับ”
ธนาคารโยมาได้จับมือกับ Misys ในการช่วยขยายบริการปัจจุบันของธนาคารให้ครอบคลุมถึงการทำธุรกรรมออนไลน์ และการปรับปรุงการทำงานตามสาขาต่างๆ โดยทางธนาคารฯ จะปรับใช้ระบบ FusionBanking Essence ทั้งเวอร์ชั่น Mobile และ Online ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชั่นตระกูล FusionBanking เพื่อเพิ่มช่องทางในการให้บริการ และเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบหลักของธนาคาร โดยทางธนาคารฯ ยังได้อธิบายว่า การขยับขยายครั้งนี้ก็เพื่อที่จะรับมือกับการใช้งานอุปกรณ์มือถือที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในเมียนมาร์ เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้ ทางการเมียนมาร์ได้มีการยกเลิกกฏระเบียบบางอย่าง และมีการเปิดกว้างในส่วนตลาดโทรคมนาคมในประเทศมากขึ้น
ทางธนาคารฯ ยังได้กล่าวเสริมในแถลงการณ์อีกว่า จะมีการติดตั้งระบบ Misys FusionBanking Essence ควบคู่กับ Misys Architecture & Process Solutions (MAPS) โดยระบบที่ว่านี้จะรวมเอาโมเดลของกระบวนการที่สอดคล้องกับวิธีการปฏิบัติงานที่ดีที่สุดของตลาดกับกฎระเบียบมาตรฐาน ซึ่งจะมีโมเดลแอพพลิเคชั่นของ FusionBanking Essence รองรับอีกที การดำเนินการเช่นนี้จะช่วยให้ธนาคารฯ เปิดใช้งานระบบได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยใช้โมเดลการดำเนินการที่มีความเสี่ยงต่ำ และผ่านการทดลองมาแล้วว่าประสบความสำเร็จแน่นอน