April 25, 2024

โน้ตบุ๊คเตรียมขยับไปที่ซีพียูตัวแรง Core i9 แล้ว

หลังจากเปิดตัวเวอร์ชั่นสำหรับเครื่องเดสก์ท็อปไป ล่าสุดอินเทลจัดงานเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel Core i9 สำหรับแล็ปท็อปเป็นครั้งแรกของโลก โปรเซสเซอร์รุ่นนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์เน้นการใช้งานแบบโมบายประสิทธิภาพสูง โดยโปรเซสเซอร์  Intel Core i9 เจนเนอเรชั่น 8 อันทรงพลังนี้ เป็นโปรเซสเซอร์สำหรับแล็ปท็อปที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่อินเทลเคยพัฒนาขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมและสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เยี่ยมยอดที่สุดสำหรับการใช้งานเคลื่อนที่

The new 8th Gen Intel Core i9, i7 and i5 processors for laptops are based on the Coffee Lake platform and leverage the 14nm++ process technology enabling them to deliver up to 41 percent more frames per second in gameplay1 or edit 4K video up to 59 percent faster than the previous generation with same discrete graphics.2

นอกจากการมาถึงของโปรเซสเซอร์ Intel Core i9 สำหรับแล็ปท็อปแล้ว อินเทลยังประกาศเปิดตัวส่วนขยายใหม่ของแพลตฟอร์ม Intel Core ซึ่งรวมเอาคุณสมบัติเด่นของโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 8 และเทคโนโลยีหน่วยความจำ Intel Optane เข้าไว้ด้วยกัน นับเป็นการผนึกกำลังระหว่างผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซีพียูและชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูงสำหรับเดสก์ท็อป ที่โดดเด่นในเรื่องการสแตนด์บายพร้อมใช้งาน ทั้งยังใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม Intel Core vPro เจนเนอเรชั่น 8 ใหม่ร่วมกัน

ที่สุดของประสบการณ์การเล่นเกมและสร้างสรรค์คอนเทนต์

โปรเซสเซอร์ Intel Core i9  i7 และ i5  เจนเนอเรชั่น 8 สำหรับแล็ปท็อป สร้างบนแพลตฟอร์ม คอฟฟี เลค (Coffee Lake) และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีระดับ 14nm++ เมื่อเล่นเกม1 จึงแสดงภาพต่อวินาทีได้มากขึ้นถึงร้อยละ 41 หรือตัดต่อวีดีโอขนาด 4k ได้เร็วขึ้นถึงร้อยละ 59 เมื่อเทียบกับเจนเนอเรชั่นก่อนด้วยคุณภาพกราฟิก2 ระดับเดียวกัน

โปรเซสเซอร์รุ่นท็อป Intel Core i9-8950HK เจนเนอเรชั่น 8 ได้รับการออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด โดยเป็นโปรเซสเซอร์แบบโมบายรุ่นแรกของอินเทลที่มี 6 แกน และ 12 เธรด     มาพร้อมตัวเร่งความเร็ว Intel Thermal Velocity Boost (TVB) ใหม่ ซึ่งหาโอกาสปรับเพิ่มความถี่ของนาฬิกาไดสงสุดถึง 200 เมกกะเฮิรตซ์โดยอัตโนมัติหากอุณหภูมิของโปรเซสเซอร์ต่ำพอและพลังเทอร์โบยังมีเหลือ นั่นหมายถึงความถี่เทอร์โบสามารถสูงถึง 4.8 กิกะเฮิรตซ์

The new 8th Gen Intel Core i9, i7 and i5 processors for laptops are based on the Coffee Lake platform and leverage the 14nm++ process technology enabling them to deliver up to 41 percent more frames per second in gameplay1 or edit 4K video up to 59 percent faster than the previous generation with same discrete graphics.2

เนื่องด้วยอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลสำหรับการเล่นเกมเติบโตอย่างรวดเร็ว อินเทลเล็งเห็นถึงความต้องการแล็ปท็อปที่ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพไม่ต่างไปจากเดสก์ท็อปเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและเต็มอิ่ม อีกทั้งยังสามารถสตรีมและบันทึกไฟล์มัลติมีเดียได้โดยไม่กระทบกับการเล่นเกม ขณะเดียวกันก็สามารถพกพาได้

ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนั้นยังเป็นประโยชน์ในด้านอื่นอีกนอกเหนือจากการเล่นเกม นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วส่งผลให้แทบทุกคนสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ตลอดจนวิธีสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ได้ และได้เปลี่ยนนิยามของความคิดสร้างสรรค์ไปโดยสิ้นเชิง เมื่อคอนเทนต์มีความหลากหลายและเสมือนจริงยิ่งขึ้น สมรรถนะของคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นทั้งต่อการใช้งานและการสร้างสรรค์คอนเทนต์จึงต้องเพิ่มตามไปด้วย โปรเซสเซอร์ตระกูล Intel Core เจนเนอเรชั่น 8 เป็นแพลตฟอร์มโมบายที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ นอกจากนี้ประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ในตระกูลโมบาย Intel Core เจนเนอเรชั่น 8 ทั้งแบบเธรดเดียวและหลายเธรดช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์คุณภาพสูงของเทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) หรือประสบการณ์ Windows Mixed Reality Ultra ได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด

โปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูงในตระกูลโมบาย Intel Core เจนเนอเรชั่น 8 ยังเพิ่มชิปเซ็ตใหม่ Intel 300 Series ที่มี Gigabit Wi-Fi ในตัว เพื่อการเชื่อมต่อที่เร็วกว่ามาตรฐาน 2×2 802.11AC 80MHz (867 Mbps)3 ถึง 2 เท่า

เทคโนโลยีหน่วยความจำ Intel Optane พร้อมใช้งานบน Intel Core เจนเนอเรชั่น 8 ทั้งแพลตฟอร์มโมบายและเดสก์ท็อป

เทคโนโลยีหน่วยความจำ Intel Optane เป็นตัวเร่งระบบอัจฉริยะปรับเปลี่ยนได้สำหรับแพลตฟอร์มโมบายและเดสก์ท็อป ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการตอบสนองของเทคโนโลยีจัดเก็บแบบ SATA โดยไม่ลดความจุในการจัดเก็บข้อมูล

ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยี Intel Optane มาใช้บน Intel Core เจนเนอเรชั่น 8 ทั้งแพลตฟอร์มแบบโมบายและเดสก์ท็อป นอกจากนี้ อินเทลยังเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Data Drive Acceleration ที่เร่งการทำงานของไดร์ฟทุติยภูมิข้อมูลเอชดีดีขนาดใหญ่ องค์ประกอบอันทรงพลังทั้งคู่ช่วยให้โหลดเกมได้เร็วขึ้น 4.7 เท่า4 และโหลดมีเดียได้เร็วขึ้น 1.7 เท่า ศึกษาเรื่อง Data Drive Acceleration เพิ่มเติมได้ที่นี่

ผู้บริโภคจะเริ่มเห็นส่วนขยายแพลตฟอร์มใหม่ที่มีสัญลักษณ์ Intel Core i5+ i7+ และ i9+ เจนเนอเรชั่น 8 ในบางระบบแล้ว โดยเริ่มจากโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 8 โมบายและเดสก์ท็อป ซึ่งบ่งชี้ว่าได้ซื้ออุปกรณ์ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพของ  Intel Core พร้อมการเพิ่มความเร็วด้วยเทคโนโลยีหน่วยความจำ Intel Optane

ทั้งนี้ผลการทดสอบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ ด้านบนอาจเปลี่ยนแปลงได้หากมีการทดสอบเพิ่มเติม ผลการทดสอบขึ้นอยู่กับการตั้งค่าเฉพาะของแพลตฟอร์มและปริมาณงานที่ใช้ในการทดสอบ และอาจไม่สอดคล้องกับส่วนประกอบ ระบบคอมพิวเตอร์ หรือปริมาณงานของผู้ใช้ ผลการทดสอบไม่ใช่ตัวแทนของการทดสอบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอื่นๆ และผลการทดสอบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอื่นๆ อาจให้ผลกระทบที่มากกว่าหรือน้อยกว่าก็เป็นได้

ซอฟต์แวร์และปริมาณงานที่ใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพอาจได้รับการปรับให้เหมาะสมที่สุดสำหรับไมโครโปรเซสเซอร์ของอินเทลเท่านั้น ผลการทดลอบประสิทธิภาพ เช่น Sysmark และ MobileMark วัดโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบ ซอฟต์แวร์ การปฏิบัติการ และฟังก์ชั่นเฉพาะ การเปลี่ยนแปลงปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งอาจทำให้ผลการทดสอบเปลี่ยนไปได้ ท่านควรศึกษาข้อมูลและผลการทดสอบต่างๆ รวมถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เมื่อทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจซื้อ ศึกษาเรื่องการทดสอบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานและการทดสอบประสิทธิภาพได้ที่ www.intel.com/benchmarks