April 19, 2024

งานประชุมเอคีลอนเอเชียซัมมิท 2023 กลับมาอีกครั้ง พร้อมบริษัทสตาร์ทอัพ 100 อันดับแรกในเอเชียแปซิฟิก

e27 บริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพด้านแพลตฟอร์มสื่อ ประกาศเปิดตัวงานเอคีลอนเอเชียซัมมิท 2023 (Echelon Asia Summit 2023) ที่จะจัดขึ้นที่ศูนย์จัดงานสิงคโปร์เอ็กซ์โป ในระหว่างวันที่ 14-15 มิถุนายน 2566 ในการจัดงาน 2 วันจะมีผู้เข้าร่วมงาน 5,000 รายจากทั่วทั้งเอเชีย เป็นตัวแทนจากบริษัทกว่า 200 แห่ง และมีผู้บรรยายระดับเวิลด์คลาสกว่า 100 คน เอคีลอนเป็นอีเวนท์ด้านเทคโนโลยีที่ช่วยบริษัทสตาร์ทอัพในการสร้างความสัมพันธ์เครือข่ายใหม่ หาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และสร้างสรรค์กระแสการลงทุนใหม่ๆ จากทั่วทั้งอีโคซิสเต็มส์อุตสาหกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในปีนี้ ภายในอีเวนท์จะมีการอภิปรายเกี่ยวกับอนาคตที่บริษัทในอีโคซิสเต็มส์ด้านเทคและสตาร์ทอัพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเผชิญ ทั้งในเรื่องการลงทุนและแนวโน้มเรื่องการควบรวมและเข้าซื้อกิจการ (M&A) การที่ธุรกิจในเซกเตอร์ที่มีการเติบโตสูงจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในงาน 2 วันนี้ผู้บรรยายที่เชี่ยวชาญกว่า 100 คนจากเอคีลอนจะนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับ Web3.0 ซูนิคอร์น (Soonicorns สตาร์อัพที่กำลังจะได้เป็นยูนิคอร์น) และนักสร้างความเปลี่ยนแปลง (Changemakers) ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เซ็กเตอร์ใหม่ในอนาคตและทิศทางการลงทุน การควบรวมและเข้าซื้อกิจการ  ความยั่งยืน การเติบโตและการขยายตัวเพื่อรองรับการเติบโต และส่วนที่เหลือของงานจะมีเวิร์คช็อป การสนทนาโต๊ะกลม ส่วนงานแสดงสินค้า และกิจกรรมสร้างเครือข่าย เอคีลอนเอเชียซัมมิท 2023 เป็นงานที่สตาร์ทอัพและนักลงทุน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้มีโอกาสในการก้าวสู่ตลาดโลก

ในครั้งที่ผ่านมางานเอคีลอนเอเชียซัมมิทได้นำเสนอเรื่องราวของผู้ก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูง จากสตาร์ทอัพและนักลงทุน เช่น แกร็บ (Grab)  คาร์โร (Carro) นินจาแวน (Ninja Van) วีเวิร์ค (WeWork) ลาซาด้า (Lazada) ช้อปแบ็ค (Shopback) ลาล่ามูฟ (Lalamove) อัลทาร่า เวนเจอร์ส (Altara Ventures) เวอร์เท็กซ์ เวนเจอร์ส (Vertex Ventures) จัสโค (JustCo) มังค์สฮิลล์เวนเจอร์ส (Monk’s Hill Ventures) โกลเด้นเกตเวนเจอร์ส (Golden Gate Ventures) และ จังเกิลเวนเจอร์ส (Jungle Ventures)

สำหรับงานผู้เข้าร่วมงานจะได้เห็นการกลับมาของโปรแกรมท็อป100 ซึ่งเป็นโปรแกรมสตาร์ทอัพกลุ่มที่ดีที่สุด (Best-in-class) โดยนำเสนอโครงการของแต่ละแห่งเพื่อชิงรางวัลโปรแกรมแชมเปี้ยนชิพ ท็อป 100 เป็นโปรแกรมรวบรวม จัดหมวดหมู่ และจัดอันดับ  ที่ออกแบบมาเพื่อค้นหา แสดงตัวอย่างและเร่งรัดให้บริษัทสตาร์ทอัพที่กำลังจะก้าวขึ้นมาสู่ความสำเร็จ ผู้เข้ารอบสุดท้ายถูกเลือกมาจากผู้สมัครกว่า 500 ราย และปัจจุบันนี้เป็นตัวแทนจากกว่า 10 ประเทศ ซึ่งจะนำเสนอโครงการต่อตัวแทนนักลงทุน 5,000 รายรวมถึงนักลงทุน 25 อันดับแรก (ท็อป 25) ด้วย สมาชิกในโปรแกรมท็อป 100 ที่ผ่านมารวมถึงบริษัทที่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปแล้ว เช่น ทูกิทากิ (Tookitaki) ไนตี้ไนน์ดอตโค (99.co) พิกอัพ (Pickupp) แอสไพร์ (Aspire) เอชทรี ไดนามิกส์ (H3 Dynamics) กลินท์ส (Glints)

ในปีนี้โปรแกรมท็อป 100 เป็นพาร์ทเนอร์กับรางวัลเดอะเซฟสเต็ปดีเทค หรือดิสแอสเตอร์เทค (The SAFE STEPS D-Tech  /Disaster Tech) ซึ่งจัดตั้งโดยมูลนิธิพรูเด็นซ์ (Prudence Foundation) มีเป้าหมายเพื่อที่จะค้นหา ให้ทุนและสนับสนุนโซลูชันนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ในการช่วยรักษาชีวิตผู้คนในช่วงระหว่างและหลังจากเกิดภัยธรรมชาติ ในฐานะส่วนหนึ่งของโปรแกรม ท็อป 100 รางวัลเซฟสเต็ปดีเทคจะเลือกผู้สมัคร 5 รายจากทั้งหมด 100 กว่ารายทั่วโลกเพื่อที่จะแสดงผลงานโครงการบนเวที

ในช่วงเริ่มต้นการจัดงาน อี 27 ได้จัดงานพบปะสังสรรค์ขึ้น 5 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เพื่อพูดคุยถึงสถานการณ์ธุรกิจสตาร์ทอัพในแต่ละประเทศ ธุรกิจสตาร์ทอัพและอีโคซิสเต็มส์ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัวจากภัยพิบัติโรคระบาด โดยมีการคาดการณ์การเติบโตที่คาดการณ์ 4.8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2566 หลังการเปิดประเทศ และเศรษฐกิจกลับมาพลิกฟื้นอีกครั้ง แม้ตัวเลขคาดการณ์จะเป็นตัวเลขที่จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ความท้าทายต่างๆ เช่นเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยและสถานการณ์การลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปก็ยังคงมีอยู่เช่นกัน

โมฮาน เบลานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง อี 27 (e27) ได้แสดงความเห็นว่า “อีโคซิสเต็มส์ด้านเทคโนโลยีเติบโตขึ้นตลอดช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณบรรดานักลงทุนจำนวนมาก และแรงผลักดันสู่รอบการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีมูลค่าสูงขึ้น ในช่วงที่ผ่านมามุ่งเน้นในเรื่องพื้นฐานของธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืนไม่มากนัก ปีที่ผ่านมานับเป็นการเริ่มต้นใหม่และกำหนดจุดมุ่งหมายใหม่สำหรับผู้ก่อตั้งและนักลงทุน และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการสร้างอีโคซิสเต็มส์ใหม่อีกครั้ง และการวางแผนวิวัฒนาการของระบบ เอคีลอนมุ่งหมายที่จะสร้างให้เกิดการอภิปรายร่วมกันว่า ควรจะทำอย่างไรให้อีโคซิสเต็มส์ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่ส่งผลกระทบจริงๆ และเติบโตไปได้อย่างยั่งยืนด้วย”