10/04/2023

เราเตอร์ของระบบเครือข่ายไร้สายที่มาพร้อมจอสัมผัสสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน

Black-composite-shotหลังจากเปิดตัวผ่าน Kickstarter และมีรายได้ทะลุเป้ากว่าร้อยละ 60 เพียงผ่านไปแค่ 2 วัน สำหรับผลงานของบริษัท Securifi ที่มีชื่อว่า Almond+ ซึ่งเป็นเราเตอร์ไร้สายรุ่นล่าสุด ที่สามารถดึงความสนใจจากแฟนคลับของเราเตอร์ Almond รุ่นก่อนหน้าได้อย่างล้นหลาม โดย Alomond รุ่นแรกนั้นได้รับดาวในการ Review อย่างท่วมท้นจากความเรียบง่ายของการตั้งค่าอุปกรณ์ พร้อมทั้งความสามารถที่เหนือไปจากอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทำเครือข่ายไร้สายภายในบ้านตัวอื่นๆ

สานต่อความสำเร็จจากเราเตอร์รุ่นแรก Almond+ มาพร้อมกับความสามารถที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรองรับเครือข่ายไร้สายตามมาตรฐาน 802.11ac ที่ความเร็วที่ถ่ายโอนข้อมูลที่ 1.17Gb/s ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่รองรับความสามารถของสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่จากค่ายแอปเปิ้ล, Samsung และผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่เปิดตัวมาพร้อมกับการรองรับมาตรฐาน 802.11ac ซึ่งผู้ใช้งาน Almond+ จะได้รับประโยชน์จากความเร็วไร้สายที่เพิ่มขึ้นสำหรับงานที่ต้องการแบนด์วิดธ์สูง อาทิ การชมภาพยนตร์ผ่านบริการออนไลน์อย่าง Netflix หรือ Vudu จึงมั่นใจได้ว่า Almond+ รองรับมาตรฐาน Wireless N และมาพร้อมกับพอร์ต LAN ความเร็วสูงแบบ 4Gb/s สำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านสาย LAN

นอกจากการรองรับมาตรฐาน 802.11ac แล้ว Almond+ ยังได้รวมความสามารถในการติดต่อและสั่งงานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะภายในบ้านที่ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีของ Zigbee และ Z-Wave โดยที่ Almond+ ทำหน้าที่เป็นระบบการจัดส่งข้อความเตือนในการควบคุมฟังก์ชั่นงานเฉพาะภายใน Smart home ตัวอย่างเช่น ถ้าประตูหน้าหรือประตูหลังของบ้านมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ป้องกันผู้บุกรุกเอาไว้ อุปกรณ์ Almond+ สามารถสั่งการให้มีการแจ้งเตือนส่งไปยังสมาร์ตโฟนของคุณเมื่อประตูถูกเปิดในขณะที่ไม่มีคนอยู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีการแสดงฟีเจอร์อื่นๆ ของ Almond+ ให้ได้ชมในงาน CES 2013 ที่ผ่านมา อาทิ การปรับแสงสว่างของหลอดไฟให้สลัว และควบคุมอุณหภูมิของบ้านโดยใช้ Almond+ ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 2.8 นิ้ว

การออกแบบของ Almond+ นอกจากจะเน้นที่ขนาดกะทัดรัดแล้ว ก็ยังสามารถติดตั้งเข้ากับฝาผนังได้อย่างสวยงาม โดยมีการคาดกันว่า Almond+ จะมีตัวเครื่องให้เลือกซื้อถึง 5 โดยขุมพลังที่อยู่ภายใน Almond+ ทำงานด้วยโพรเซสเซอร์ความเร็ว 620MHz และหน่วยความจำแรม 128MB และทีมผู้ผลิตวางแผนเอาไว้ว่าจะรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพา iOS และแอนดรอยด์เมื่อมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ

Leave a Reply

You may have missed