อินเทลเปิดตัว Xeon E7-8800/4800 v3

อินเทล คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดตัวชิปประมวลผลในตระกูล อินเทล ซีออน โปรเซสเซอร์ E7-8800/4800 v3 () เพื่อมอบสมรรถนะในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจในแบบเรียลไทม์ พร้อมด้วยเสถียรภาพที่มั่นคงสำหรับทุกภารกิจสำคัญขององค์กร

ความสามารถในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจแบบเรียลไทม์ถือเป็นสิ่งที่องค์กรในหลากหลายภาคอุตสาหกรรมให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ นับตั้งแต่วงการสาธารณสุขและค้าปลีกไปจนถึงการสื่อสาร โดยความต้องการขององค์กรต่างๆ เหล่านี้ในด้านการค้นหาและคัดแยกข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากข้อมูลปริมาณมหาศาลที่มีอยู่เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนให้เกิดความต้องการเทคโนโลยีใหม่ในด้านการประมวลผลข้อมูลแบบอินเม็มโมรี่ (in-memory computing) และการวิเคราะห์แบบบิกดาต้า (big data analytics) โดยจากการพิจารณาจากสภาวะตลาดในปัจจุบันและวิเคราะห์ถึงแนวโน้มความต้องการสำหรับการประมวลผล in-memory ในอนาคต บริษัท การ์ทเนอร์ ประเมินว่าตลาดเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะมียอดขายพุ่งทะลุหลัก 9,500 ล้านเหรียญสหรัฐภายในช่วงสิ้นปี 2561 โดยอย่างน้อยร้อยละ 50 ขององค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลกจะหันมาใช้นวัตกรรมการประมวลผล in-memory ในการพัฒนากลยุทธ์¹ทางดิจิทัลสำหรับธุรกิจต่อไป

โปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล ซีออน E7 v3 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถประมวลผลและวิเคราะห์ชุดข้อมูลปริมาณมหาศาลในหน่วยความจำด้วยความปลอดภัย เพื่อนำผลไปประกอบการตัดสินใจและยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน ก่อนจะนำไปสู่ความได้เปรียบในการแข่งขันต่อไป

ไดแอน ไบรอันท์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ของอินเทล กล่าวว่า “ในปัจจุบันที่ระบบเศรษฐกิจมีรากฐานอยู่บนบริการแบบดิจิทัล ธุรกิจจะสำเร็จหรือล้มเหลวนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการตัดสินใจ โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นปัจจัยประกอบ โปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล ซีออน E7 v3 จะช่วยขับเคลื่อนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจแบบเรียลไทม์ เปิดโอกาสให้ภาค

ธุรกิจได้ยกระดับในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ผ่านทางผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงตามความต้องการของแต่ละคนยิ่งขึ้น จึงทำให้องค์กรสามารถสร้างแหล่งรายได้ใหม่ๆ และเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้นอีกด้วย”

ไฮไลท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล ซีออน E7 v3

• ชิปในตระกูล อินเทล ซีออน E7 v3 ได้สร้างสถิติโลกด้านประสิทธิภาพในการประมวลผลไว้แล้วกว่า 20 รายการ โดยการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นมากมาย ที่มีสำคัญต่อการทำงานขององค์กร โดยมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 40 เมื่อเปรียบเทียบกับโปรเซสเซอร์รุ่นก่อนหน้า
• เทคโนโลยี Intel^® Transactional Synchronization Extensions (Intel®TSX) ทำให้โปรเซสเซอร์ในตระกูลนี้มีประสิทธิภาพในการประมวลผลและถ่ายโอนข้อมูลในหน่วยความจำสูงกว่าชิปรุ่นก่อนหน้าสูงสุดถึง 6 เท่าตัว
• ชิปตระกูล อินเทล ซีออน E7 v3 มีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 18 คอร์ ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงร้อยละ 20 ขณะที่หน่วยความจำ (last-level cache) มีขนาดสูงสุดถึง 45 เมกะไบต์ จึงสามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจได้มากขึ้นกว่าร้อยละ 70 ในแต่ละชั่วโมง
• จากทั้งราคาฮาร์ดแวร์ที่ต่ำลง และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการระบายความร้อนที่ลดลง ทำให้โปรเซสเซอร์ในตระกูลนี้ มีสัดส่วนประสิทธิภาพต่อราคาสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าได้มากถึง 10 เท่า และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งานและบำรุงรักษาได้มากกว่าสถาปัตยกรรม RISC⁵ รุ่นอื่นๆ ถึงร้อยละ 85
• อินเทล ซีออน E7 v3 รองรับหน่วยความจำได้สูงสุด 32 ซ็อคเก็ต⁶ ทั้งยังสามารถรองรับหน่วยความจำขนาดใหญ่ที่สุดที่มีจำหน่ายในปัจจุบันอีกด้วย⁷ (โดยในกรณีของระบบที่มีหน่วยความจำ 8 ซ็อคเก็ตนั้น จะสามารถมีหน่วยความจำแบบ DDR3 หรือ DDR4 ได้สูงสุดถึง 12 เทราไบต์)
• คุณสมบัติใหม่ด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าและถอดรหัสด้วยเทคโนโลยีชุดคำสั่ง Intel® Advanced Encryption Standard New Instructions (AES-NI) หรือการพัฒนาด้านไมโครอาร์คิเทคเจอร์ในด้านอื่นๆ ส่วนเทคโนโลยี Intel® Run Sure ซึ่งเป็นคุณสมบัติเพื่อเสริมเสถียรภาพ ประสิทธิภาพในการเรียกใช้งาน และการบำรุงรักษาระบบที่ใช้โปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล ซีออน E7⁸ ก็ได้รับการพัฒนาคุณสมบัติใหม่เพิ่มเติม เพื่อให้แอพพลิเคชั่นทางธุรกิจต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น
• ผลิตภัณฑ์ในตระกูล อินเทล ซีออน E7 นี้ประกอบไปด้วยโปรเซสเซอร์ 12 รุ่น โดยบางรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง เช่นชิปความเร็วสูง 2 รุ่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อรับมือกับแอพพลิเคชั่นฐานข้อมูลบางประเภท ซึ่งต้องการประสิทธิภาพการทำงานของคอร์ที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
• ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะมีผู้ผลิตฮาร์ดแวร์กว่า 17 รายทั่วโลกทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้โปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล ซีออน E7 v3 ไม่ว่าจะเป็น Bull*, Cisco*, Dell*, Fujitsu*, Hitachi*, HP*, Huawei*, Inspur*, Lenovo*, NEC*, Oracle*, PowerLeader*, Quanta*, SGI*, Sugon*, Supermicro* และ ZTE*.