06/10/2023

อวาย่าผลักดันผลิตภัณฑ์ Video Collaboration Solution สำหรับ Mobile Enterprise

Video solution ที่สมเหตุสมผลซึ่งได้รับการออกแบบให้มีความเรียบง่ายและสนับสนุนการทำงาน ร่วมกัน ในลักษณะ mobile collaboration
ด้วยระดับราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้สำหรับกลุ่มองค์กรขนาดกลาง (SME) และ องค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise)
มาพร้อมความสามารถแบบไร้ข้อจำกัดในการทำงานร่วมกันระหว่างระบบของอวาย่า กับ ระบบของผู้ผลิตอื่นๆ และรวมถึง video conferencing platform จากผู้ผลิตรายต่างๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันในลักษณะ open collaboration ที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตอบสนองความต้องการของตลาด mobile enterprise กลุ่มผลิตภัณฑ์ video collaboration solution ใหม่นี้มาพร้อมกับขีดความสามารถใหม่ๆ และเปี่ยมประสิทธิภาพขึ้นอีกขั้น ทั้งยังช่วยให้เข้าถึงฟังก์ชั่นด้านการสื่อสารผ่านวิดีโอที่ครบครันสำหรับ face to face collaboration จากอุปกรณ์ประเภทอุปกรณ์มือถือพกพา รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป และ room-based system ต่างๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายและครอบคลุมมากที่สุด

จากการเปิดตัวในครั้งนี้ อวาย่าได้นำเสนอขีดความสามารถด้าน video collaboration ใหม่ๆ ให้แก่องค์กรขนาดใหญ่ และ ขนาดกลาง ดังต่อไปนี้:

– Avaya Aura® Conferencing พร้อมกับ Avaya Flare® Experience 1.1 เพิ่มขีดความสามารถด้าน video collaboration เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันผ่านทั้งระบบ voice, video และ web ได้อย่างเป็นเอกภาพจากที่ใดก็ได้ โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน Avaya Aura Conferencing รองรับการประชุมพร้อมกันสูงสุดถึง 7,500 สาย หรือรองรับจำนวนผู้ใช้งานสูงสุดถึง 75,000 คน บน distributed SVC-based switched video architecture ที่มีศักยภาพด้าน video collaboration ที่ให้คุณภาพและความจุสูง แต่ใช้แบนด์วิดธ์น้อยลงถึงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับโซลูชั่นจากผู้ค้ารายอื่นๆ

– Scopia XT5000 room system มาพร้อมกับ MCU แบบ 4 หรือ 9 พอร์ต และ SIP ที่ใช้งานร่วมกับ Avaya IP Office นอกจากนี้ ระบบ room-based XT5000 แบบ all-in-one ในระดับราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ยังมาพร้อมแพคเกจเสริมสำหรับองค์กรขนาดกลาง (SME) และ workgroup ที่มีทั้ง Scopia Desktop และ Scopia Mobile

– Scopia Mobile นอกเหนือจากเครื่อง Apple iPhone และ iPad แล้ว ยังขยายไปยังอุปกรณ์ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android™ และสามารถดาวน์โหลดอแพพลิเคชั่นได้ฟรีจาก Google Play และ Apple App Store ทั้งนี้ Scopia Mobile นับเป็น standards-based mobile video application เวอร์ชั่นแรกที่ช่วยให้การใช้งานแบบ HD video conferencing และ data collaboration เกิดขึ้นได้ พร้อมขีดความสามารถในการทบทวน (review), การควบคุม conference call, การจำกัด (moderation) และ การจัดการ (administration) ผ่านอินเตอร์เฟซ (UI) ที่ใช้งานง่ายและชาญฉลาด

– Scopia XT Executive 240 (XTE 240) เป็น executive desktop video conferencing system ประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด พร้อมอุปกรณ์เสริม MCU ในตัว โดย XTE 240 จะเป็น desktop system ที่ราคาย่อมเยาที่สุดในตลาด ทั้งยังพร้อมด้วยระบบ live video ความละเอียดสูงและ content sharing ที่ทำงานพร้อมกันโดยใช้ H.264 SVC และ H.264 High Profile เพื่อให้ได้คุณภาพ รวมถึงความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของแบนด์วิดธ์ที่สูง

– Scopia TIP Gateway ช่วยให้สามารถรองรับการใช้งานแบบ 3 หน้าจอสำหรับบริการ audio, video และ data-sharing ในสภาพแวดล้อม telepresence ของซิสโก้ โดย Scopia TIP Gateway ดังกล่าวรองรับความต้องการของลูกค้าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่ใช้งานระบบ telepresence suite อยู่แล้ว รวมถึงผู้ให้บริการที่มีบริการ telepresence exchange network ด้วย โดยโซลูชั่นนี้เสริมขีดความสามารถของอวาย่าในการทำงานร่วมกันกับระบบ telepresence แบบ standards-based ได้ทุกระบบ ซึ่งรวมถึงระบบจาก LifeSize, Polycom และ Tandberg

– Scopia Management System มาพร้อมกับ browser-based interface ที่เรียบง่าย เพื่อความสะดวกในการจัดการ video collaboration deployment จากเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC), Mac, สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต โดยอินเตอร์เฟซดังกล่าวผสานกับ Google Maps ที่ให้มุมมองทางภูมิศาสตร์ทั่วโลกของ collaboration topology ตลอดจนคุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น multi-tenancy, บริการประเภท concierge service, ขีดความสามารถในการขยายระบบเพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้งานได้สูงสุดถึง 400,000 คน (สำหรับผู้ให้บริการและองค์กรขนาดใหญ่)

– Avaya Client Applications พร้อม Microsoft Lync, Outlook และ Office integration ใช้ Avaya Aura® เพื่อนำเสนอช่องทางการสื่อสารแบบ point-to-point และ point-to-multi-point รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ (interoperability) ในส่วนของ video conferencing solution ที่มาจากผู้ผลิตหลายราย ซึ่งได้แก่โซลูชั่นจาก Avaya-Radvision, LifeSize และ Polycom ทั้งนี้ Avaya Client Applications เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภท plug-ins สำหรับ real-time collaboration จาก Microsoft desktop application เช่น Lync/OCS, Office, Internet Explorer และ Dynamics (CRM) รวมถึง IBM Sametime และ Salesforce.com (CRM)

Avaya Aura Conferencing, Avaya Flare Experience และ Scopia Enterprise Solutions สามารถรองรับหรือทำงานร่วมกันระหว่างระบบได้กับ Avaya Aura ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับ real-time collaboration แบบเปิดในลักษณะ standards-based โดยเมื่อเร็วๆ นี้ อวาย่าได้เปิดตัว Avaya Aura Virtual Environment (Avaya Aura VE) ซึ่งจะช่วยให้แอพพลิเคชั่นในกลุ่ม Avaya Aura unified communications และ contact center สามารถทำงานบนโซลูชั่นในกลุ่มVMware® virtualization ได้ โดยนอกจากนี้ Avaya Aura VE ยังช่วยให้องค์กรขนาดใหญ่สามารถเร่งกระบวนการติดตั้งและใช้งาน (deployment) แอพพลิเคชั่นในกลุ่ม mobile collaboration ทั่วทั้งองค์กร ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในครั้งนี้ด้วย

Avaya

Leave a Reply