06/10/2023

มรรค 4 ในวิถีชีวิตใหม่

โดย พงษ์ ผาวิจิตร (ตีพิมพ์ในนิตยสาร Eworld ฉบับเดือน กันยายน 2011)

ถ้าท่านเป็นประเทศที่ยากจน แล้วอยากพัฒนาประเทศให้ทันสมัย จะทำอย่างไร

  1. ส่งคนหัวดี / ข้าราชการไปดูงานต่างประเทศ แล้วกลับมาเกทับว่า “ข้านี่แหละ ชนชั้นระดับอินเตอร์เพราะเคยผ่านประเทศนอกมาแล้ว” สรุปแล้วส่วนใหญ่ร้อยละ 60 ไม่ได้กลับมาแก้ปัญหา แต่กลับมานั่งดูปัญหา แนวนี้มีหลายประเทศยึดถือ
  2. ส่งคนไม่มีทางเลือกไปตายเอาดาบหน้า เช่น คนจีนโพ้นทะเลที่บรรพบุรุษอพยพหนีไปหากินต่างแดน คนอีสานที่ไปตั้งรกรากที่อื่น ชาวอินเดียหนีมาขายโรตีบ้านเรา แล้วส่งเงินกลับไปเลี้ยงน้องให้ได้รับการศึกษา มีบ้างที่กลับประเทศบ้านเกิด มีบ้างที่ถือโอกาสสิงสู่อยู่ประเทศปลายทางเลย
  3. นำเข้าความเจริญของคนต่างชาติมาให้คนในบ้านดูเป็นแบบอย่าง อย่างจีนที่จัดโอลิมปิก แล้วให้คนที่พัฒนากว่า เจริญกว่าเข้ามาชมกีฬา แต่คนจีนได้ดูแบบอย่าง วิถีชีวิตของคนต่างชาติกับตา ดีกว่าการฟังพร๊อพปากันดาของรัฐบาลทางทีวี
  4. สร้างรูปแบบการพัฒนาด้วยตัวเอง ก็ประเทศที่พัฒนาแล้ว เมื่อก่อนก็ล้าสมัยทั้งนั้น เขามาด้วยเส้นทางนี้

แล้วถ้าท่านเป็นคนตกยุค.. ท่านจะพัฒนาตัวเองอย่างไร..

  1. บอกกับตัวเองว่า “ถ้าฉันมีเครื่องมือโน่นนี่ หรือ ถ้าฉันได้มีโอกาสเหมือนคนอื่น ป่านนี้ฉันไปไกลกว่านี้แล้ว” แปลไทยเป็นไทยคือ.. ฉันมีความสุข ความเชื่อว่า ปัจจัยความสำเร็จทั้งหมด ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น iPad, iPhone, รถ Mini รวมๆ แล้วคือ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงจะช่วยให้ สมอง Mini ของฉันที่เป็นเจ้าของ iDiot (อ่านว่าไอเดียต เหมือนไอแพด ไอโฟน กรุณาอย่าอ่านว่า อีเดียต เดี๋ยวจะเสียรสชาด)
  2. นั่งปลงตกว่า ..ชาตินี้คงหมดหวัง..โชคดีที่เกิดมาเป็นชาวพุทธ เพราะเรามีชาติหน้าให้หวัง ถ้าเป็นชาวอื่นๆ เขาคงไม่มีชาติหน้าให้หวังแน่ๆ .. แต่พอถึงชาติหน้า ท่านลืมไปอีกว่า ท่านก็จะหาเหตุผลมาอธิบายอีกว่า “ก็เพราะเรามีกรรมเก่าเมื่อชาติที่แล้ว..ชาตินี้เราถึงยังลำบาก”  เวร..ชาติที่แล้วก็หวังชาตินี้ ชาตินี้ก็โทษชาติที่แล้ว..
  3. ถ้ายังไม่แต่งงาน ก็หวังว่า สักวันจะมีคนดีๆ เก่งๆ มาแต่งงานกับคนอย่างฉัน จากนั้นทุกอย่างก็ดีขึ้น.. แต่ลองนั่งคิดกลับว่า ..คนไม่เอาอ่าวยิ่งกว่าเราก็คิดแบบเดียวกับเรา เช่น พนักงาน รปภ. ก็หมายตาดอกฟ้าที่จบ ป.โท ทำงานเป็นหลักแหล่งมาเป็นแม่ศรีเรือน.. ถ้าท่านเผลอไปตำหนิ รปภ.ว่าไม่เจียมตัว..มันจะเข้าตัวท่านเองเช่นกัน
  4. รอหวย..
  5. ลุกขึ้นทำ Just do it!

หมดเวลาแล้วครับ.. ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับแนวทางข้างต้น แต่ถ้าท่านหลงอ่านมาถึงตรงนี้ ก็แสดงว่าท่านเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เข้าใจระเบียบโลกใหม่ที่กิจกรรม  Work, Learn, Play, & Live ไม่มีพรมแดนอีกต่อไป ไม่ว่าจะในมิติไหนก็ตาม: เวลา, สถานที่, นายจ้าง, ลูกจ้าง, คนซื้อ, คนขายฯลฯ และเส้นทางลัดทั้งหมดข้างต้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่ใช่ข้อแก้ตัวหรือข้อตำหนิอีกต่อไป.. ท่านต้องท่องคำนี้ว่า “มันคือยาหมดอายุแล้ว”.. หากดันทุรังใช้ต่อ ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยรักษาโรค แต่อาจทำให้ท่านตายได้ด้วยซ้ำ  เส้นทางใหม่นี้คือเส้นทางมั่วยิ่งกว่าตำสั่ว

ถ้าจะพูดอย่างหยาบๆ ก็คือ ท่านจะต้องหาน้ำหอมในกองอุจจาระ.. หาคนซื้อตอนซื้อของ .. เรียนสิ่งใหม่จากงานที่กำลังทำ.. กินข้าวไปทำงานไป (ถึงไม่ทำในทางกายภาพก็ทำในหัวสมอง) ..ไปเช็งเม้งพร้อมๆ กับพักร้อนไปในตัว.. โทรหาคนรักในห้องน้ำ ฯลฯ .. ซึ่งการจะเข้าถึงมรรคทั้ง 4 ต้องอาศัยนวัตกรรมใหม่เข้ามาช่วยจัดการความซับซ้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..

.. ท่านต้องเข้าใจว่า ..เราอยู่ในยุคที่ห้าของระบอบเศรษฐกิจใหม่ คือ เศรษฐกิจแห่งความฝัน

..ท่านต้องรู้จักการใช้เครื่องมือสมัยใหม่ทั้ง 5 ยุค.. คอมพิวเตอร์(ที่เปลี่ยนไปเป็น Cloud Computing แล้ว) ไมโคร.โน้ตบุ๊ก..โทรศัพท์.. แทบเลต.

..ท่านต้องรู้จักครูคนใหม่ 3 คนและสามารถใช้อย่างคล่องแคล่าว.. google, youtube, Wikipedia

..ท่านต้องรู้จักร้านกาแฟสถานที่เครือข่ายเพื่อนใหม่ ที่ชื่อร้าน Facebook

..ท่านต้องรู้จักการดำรงวิถีชีวิตประจำวันว่าจะไปซื้อของ ไปธนาคาร จ่ายประกัน ทำบัตร ฯลฯ อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

…ท่านต้องรู้จักการโอนย้ายครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติ บางส่วน บางด้าน ไปอยู่ในอวกาศ เพื่อให้ง่ายต่อการประสานงาน พูดคุยผ่านนวัตกรรม Social Media ใหม่ๆ

…ท่านต้องเข้าประเด็นสังคม การเมืองว่ามีมิติที่เคยซ่อนเร้น บัดนี้ได้ปรากฏกายบนสื่อสาธารณะบนเครือข่ายเน็ต

ยังไม่จบครับ.. นิยายเรื่องนี้เพิ่งเริ่มต้น..ที่นวัตกรรม กระแสสังคมเป็นผู้เขียนบทเริ่มต้น แต่บทต่อๆ ไป และบทจบ เป็นหน้าที่ของท่านต้องเขียนเอง.. นักการเมืองยังตกใจที่ตอนนี้ชาวบ้านไม่ได้มาฟังการหาเสียง แต่เดินเข้าหาผู้แทนแล้วบอกว่า ผู้แทนต้องทำอะไรบ้าง แล้วเขาจะเลือก เหมือนกับว่าชาวบ้านเลี้ยงต้อยนักการเมือง ไม่ใช่มีนักการเมืองสำเร็จรูปให้เขาชอปปิ้ง .. ท่านเชื่อเถอะว่า..อนาคตอันใกล้ ท่านยิ่งจะตอบไม่ได้มากยิ่งขึ้นว่า ท่านทำงานอะไร? (work) บ้านอยู่ตรงไหน? (live) จบอะไรมา กำลังเรียนอะไรอยู่(Learn) และทำอะไรเป็นงานอดิเรก (Play- fb, golf, Farmville หรือขี่จักรยาน?) ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ตอบคำถามข้างต้นไม่ได้มานับสิบปีแล้ว เพราะยังตอบตัวเองไม่ได้เลย ทำมาหากินอะไร- เพราะแหล่งรายได้ในรอบห้าปีที่ผ่านมาไม่เหมือนเดิมสักปี อาศัยอยู่ที่ไหน- ถึงแม้ว่าจะมีบ้านอยู่ แต่ปรากฏว่าจำนวนวันที่อยู่บ้านน้อยกว่าอยู่ที่อื่น ๆ เสียอีก.

Leave a Reply